ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ เดินหน้าหาเสียงใช้ AI แก้ไขปัญหารถติด ปัญหารถติดเป็นทุกข์อันดับหนึ่งของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียสุขภาพ ในการเดินทางเข้ามาทำงาน และใช้ชีวิตในเมือง ด้วยนโยบาย สร้างความสุขให้คนกรุงเทพฯ
ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 10 จะทำให้การเดินทางในกรุงเทพฯ สะดวกขึ้น ด้วยการนำระบบ ซิตี้อินเทลิเจนซ์ (CITY INTELLIGENCE) ระบบสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะ มาแก้ไขปัญหาจราจรของกรุงเทพฯ ชั้นใน หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.
ดร.ศุภชัย กล่าวว่า เขาจะแก้ปัญหารถติดเป็นอันดับแรก โดยร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเตอร์เน็ต (IOT) และคลาวด์ (CLOUD) มาประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (BIG DATA) แบบเรียลไทม์โดย AI จะประมวลข้อมูลจราจร จากภาพ และวิดีโอที่บันทึกไว้จากกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯชั้นใน ร่วมกับข้อมูล จีพีเอส (GPS) จากรถยนต์ที่วิ่งบนถนน แล้วส่งข้อมูลบิ๊กดาต้า มาทางคลาวด์ คอมพิวติ้ง (CLOUD COMPUTING) ทำการวิเคราะห์สถานการณ์จำนวนรถตรงแยกนั้นทันทีแบบเรียลไทม์ และปรับระบบสัญญาณไฟจราจรในจุดนั้นเป็นไฟเขียวอย่างแม่นยำ แทนการเปิดปิดสัญญาณไฟของคุณตำรวจจราจรแบบเดิม
ดร.ศุภชัย บอกว่า เขาจะเริ่มนำระบบ ซิตี้ อินเทลิเจนซ์ หรือระบสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะนี้ มาใช้บนถนนวงแหวนรอบในของกรุงเทพมหานคร หรือที่เรารู้จักกันดีคือ ถนนรัชดาภิเษก ที่มีความยาวถึง 45 กิโลเมตร มีจุดตัดแยกเป็นถนนสายสำคัญที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุด ทั้ง ถนนพระราม 9 ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนประชาชื่น ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนจรัลสนิทวงศ์ มาบรรจบที่ทางแยกท่าพระ การปรับสัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติจะทำให้ความเร็วของรถที่วิ่งบนถนนได้ช้าประมาณ 10 ก.ม. ต่อชั่วโมง มีการเคลื่อนตัวที่เร็วขึ้น ไม่ติดขัดเป็นงูกินหางอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
การทำให้คนกรุงเทพฯ เดินทางสะดวกขึ้น ดร.ศุภชัย บอกว่า เป็นแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ สมาร์ทซิตี้ที่จะนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้อำนวยความสะดวกให้คนกรุงเทพฯ ซึ่งรวมทั้งการรณรงค์ให้ใช้รถไฟฟ้าขนาดเล็ก EV เชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้า เข้าไปส่งตามตรอก ซอย จนถึงบ้าน ทั้งนี้ รถไฟฟ้าเล็กค่าโดยสารถูกกว่าแทกซี่ มีความปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และไม่สร้างมลพิษฝุ่นละออง PM2.5 อีกด้วย